10 เคล็ดลับนอนโรงแรมอย่างปลอดภัย ห่างไกลเชื้อโรค
By A-Sei Hygiene For Everywhere
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน ทำให้การท่องเที่ยวของไทยหยุดชะงัก แต่ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลจึงสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศอย่างเต็มที่ โรงแรมก็ลดราคาห้องพักลงตามมาตรการของรัฐ เอ-เซย์ จึงอยากชวนให้ทุกคนออกไปสัมผัสความงามของประเทศไทยกัน แต่ออกไปเที่ยวอย่างไรให้ปลอดภัย ป้องกันตัวเอง ครอบครัว และคนที่คุณรักให้ห่างไกลจากเชื้อโรคกันหล่ะ
เอ-เซย์ ได้รวบรวม 10 ข้อปฏิบัติเพื่อท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ดังนี้
1. เลือกจุดหมายการเดินทางอย่างรอบคอบ
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเลือกจุดหมายการเดินทางที่ใช่ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในแต่ละพื้นที่ โดยสามารถดูได้จากข่าว เพื่อป้องกันการเข้าไปในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงโดยไม่ได้ตั้งใจ
2. ก่อนจะจองที่พัก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโรงแรมนั้นๆ มีนโยบายความปลอดภัยด้านสุขอนามัยหรือไม่
“ทุกคนทราบกันดีว่า ยิ่งลดการสัมผัสกับบุคคลอื่นมากเท่าไร ยิ่งลดความเสี่ยงได้มากเท่านั้น” เราไม่สามารถไปบังคับให้คนอื่นสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และรักษาระยะห่างทางสังคม หรือรู้ว่าเขาไปไหนมาบ้างได้ แต่เราสามารถดูว่าแต่ละโรงแรมมีนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดใดบ้าง เช่น
-
โรงแรมออกกฎให้แขกที่มาพักสวมหน้ากากอนามัยไหม ถ้าหากลืมพกหน้ากากอนามัยมา โรงแรมมีบริการให้ไหม มีสัญลักษณ์ให้รักษาระยะห่างทางสังคมไหม มีสัญลักษณ์ที่ให้แขกที่มาพักทำตามกฎของโรงแรมไหม โรงแรมมี “Contactless service” ไหม โรงแรมมีจัดแอลกอฮอล์ล้างมือให้ตามจุดต่างๆ ของโรงแรมไหม มีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อตามพื้นที่ส่วนกลางบ่อยแค่ไหน
-
วิธีง่ายๆ ก็คือก่อนจองห้องพักให้เข้าไปดูในเว็บไซต์ของ SHA ว่าโรงแรมที่จะจองผ่านมาตรฐาน SHA ไหม หากมีก็วางใจไปได้ระดับหนึ่ง ซึ่ง SHA ย่อมาจาก Amazing Thailand Safety and Health Administration มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
3. ตรวจสอบว่าโรงแรมมีการรักษาพยาบาลเบื้องต้นหรือมีการช่วยเหลือเบื้องต้นไหม
ทุกคนลองนึกถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ถ้าอยู่ๆ รู้สึกไม่สบาย ทางโรงแรมมีมาตรการรับมือไหม ดังนั้นควรถามโรงแรมก่อนว่ามีแพทย์ประจำโรงแรมหรือไม่ หรือมีข้อมูลโรงพยาบาลที่ใกล้โรงแรมมากที่สุดไหม
4. สวมหน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่างจากบุคคลอื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร
การสวมหน้ากากอนามัยเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติในช่วงนี้ ถ้าหากไม่สวมหน้ากากอนามัยก็จะไม่สามารถใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น BTS หรือ MRT ได้ ส่วนการรักษาระยะห่างจากบุคคลอื่นนั้น บางครั้งก็เป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนใช้ลิฟต์ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ควรรักษาระยะห่างจากบุคคลอื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร
5. ขอให้ทางโรงแรมจัดห้องพักที่ไม่มีคนเข้าพักมาแล้วอย่างน้อย 3 วัน
ตามเนื้อหาในรายงานการวิจัยของ New England Journal of Medicine เชื้อโรคสามารถติดอยู่บนพลาสติกหรือสแตนเลสได้นานถึง 72 ชั่วโมง ดังนั้น ถ้าหากคุณเข้าพักในห้องที่ไม่มีคนเข้าพักมาแล้ว 3 วัน ก็อาจลดความเสี่ยงได้
6. เมื่อเข้าห้องพักให้ฆ่าเชื้อโรคทันที
ถึงแม้โรงแรมจะมีการฆ่าเชื้อทำความสะอาดห้องแล้ว แต่ถ้าเป็นไปได้เมื่อเข้าห้องก็ควรจะฆ่าเชื้อด้วยตัวเองอีกรอบตรงที่ที่มีคนสัมผัสบ่อยๆ หรือตามพื้นผิวต่างๆ เช่น ลูกบิดประตู สวิตช์ไฟ รีโมตโทรทัศน์หรือรีโมตแอร์ รวมทั้งห้องน้ำ โต๊ะและบาร์ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่ได้มาตรฐาน ที่มีสารสำคัญตามที่ WHO ระบุว่าสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้
-
เอ-เซย์ ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้ออเนกประสงค์ เอ-เซย์ ที่มีสารฆ่าเชื้อคลอโรไซลีนอล ที่ได้รับรองจาก WHO และองค์การอาหารและยาว่าสามารถฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียก่อโรคได้ถึง 99.9% ผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรองจากศูนย์ทดสอบมหาวิทยาลัยมหิดล สามารถยับยั้งเชื้อได้ยาวนาน ปลอดภัย และไม่ระคายเคืองต่อผิว
7. เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
เมื่อถึงห้องพัก ถ้าหากหน้าต่างในห้องพักสามารถเปิดได้ (มีบางโรงแรมที่หน้าต่างในห้องพักเปิดไม่ได้) แนะนำให้เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท เมื่อเข้าห้องพัก
8.ลดการใช้บริการทำความสะอาดห้องพัก
แม้ทางโรงแรมจะออกกฎให้พนักงานทำความสะอาดสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง แต่ก็อาจมีบางคนที่ไม่ปฏิบัติตาม ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้บริการทำความสะอาดห้องพัก เพื่อลดจำนวนคนที่เข้ามาในห้องพักของเรา
9. ใช้บริการ Room Service แทนการออกไปรับประทานอาหารข้างนอก
เนื่องจากตอนรับประทานอาหารต้องถอดหน้ากากอนามัย ทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ เลือกใช้บริการ Room Service ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ปลอดภัยกว่า ถ้าหากต้องการให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ให้บอกพนักงานให้รักษาระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร เมื่อมาส่งอาหารหรือให้วางอาหารไว้หน้าประตูห้องแทน
10. หลีกเลี่ยงการใช้ห้องออกกำลังกายหรือสปาของโรงแรม
แม้ว่าโรงแรมจะเปิดให้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าควรจะไปใช้ เช่นเดียวกับตอนรับประทานอาหาร ตอนทำกิจกรรมเหล่านี้ไม่สามารถสวมหน้ากากอนามัยได้ อาจมีความเสี่ยงติดเชื้อได้ จึงควรระมัดระวังการเข้าใช้บริการ
สุดท้ายนี้สิ่งที่อยากเตือนทุกคนคือ แม้ว่าการแพร่ระบาดจะบรรเทาลง แต่ก็ไม่ควรการ์ดตก ควรระมัดระวังให้มากที่สุด ขอให้ทุกท่านเที่ยวให้สนุก เดินทางปลอดภัย และอย่าลืมสุขอนามัยกันด้วยนะคะ